พ่อขุนรามคำแหงมหาราช |
||
2
เม.ย.55 |
|
|
๏ คงจะเล่า กล่าวประวัติ ตัดให้สั้น
|
|
สุโขทัย สมัยนั้น เกิดจากไหน |
สรุปความ ตามเขต ประเทศไทย |
|
ศึกษาใน หลายตำนาน อาจารย์ทั้งปวง |
กล่าวโดยย่อ พ่อขุนศรี อินทราทิตย์ |
|
ปฐมประสิทธิ์ ของพระองค์ ราชวงศ์พระร่วง |
ตามตำนาน จารเอาไว้ ไทยทั้งปวง |
|
คือผลพวง เชิงประวัติ แห่งรัฐไทย |
จับความย่อ พ.ศ.หนึ่ง เจ็ดแปดศูนย์ |
|
เป็นข้อมูล หนุนประวัติ ตัดต่อไว้ |
เริ่มรัฐา อาณาจักร สุโขทัย |
|
สืบสานใย ในเผ่ากอ พ่อขุนราม |
พ่อขุนราม คำแหง มหาราช |
|
ประวัติชาติ เริ่มใหม่ ไทยสยาม |
กว่าเจ็ดร้อย ห้าสิบปี ที่พระนาม |
|
บ่งบอกความ ตามศิลา ภาษาไทย |
ใคร่ยืนยัน อันความจริง สิ่งพิสูจน์ |
|
เหตุผลผุด สุดสอดคล้อง มิต้องสงสัย |
ศาสนา วัฒนธรรม ความเป็นไป |
|
สุโขทัย ใช่เพิ่งเริ่ม มีเดิมมา |
แห่งเผ่าพง ราชวงศ์ศรี นาวนำถม |
|
มีสังคม มีอำนาจ มีรัฐา |
ขอมสบาด โขลญลำพง ลงอาญา |
|
ราชวงศ์ผา เมืองสิ้น แผ่นดินครอง |
เหลือนางเสือง มเหสี มีเรื่องเล่า |
|
บางกลางหาว เข้าต่อสู้ ศัตรูผยอง |
ได้กลับคืน สุโขทัย เอาไว้ครอง |
|
ความเกี่ยวดอง กับเครือญาติ สัชนาลัย |
จากผลงาน จารจารึก ที่ศึกษา |
|
ตามศิลา หลักที่หนึ่ง ซึ่งบอกไว้ |
รามคำแหง มหาราช ของชาติไทย |
|
เป็นโอรสใน มารดาเสือง ผู้เรืองนาม |
สองพี่นาง ต่างตักษัย แต่วัยอ่อน |
|
ร่วมอุทร สืบวงศ์ คงเหลือสาม |
พ่อขุนบานเมือง พระเชษฐา ว่าเมืองตาม |
|
องค์ที่สาม รามคำแหง แรงฤทธา |
พระราชกิจ สฤตสิ่ง อย่างยิ่งใหญ่ |
|
คำต่อท้าย ให้พระนาม ไว้ล้ำค่า |
พระเกียรติทรง องค์ราช กษัตรา |
|
คือมหา ราชประดับ สำหรับองค์ |
๏ สุโขทัย และศรีสัช กษัตริย์สอง |
|
เมืองพี่น้อง ดั้งเดิมมา ศรัทธาประสงค์ |
นำเถรวาท ศรีลังกา มาดำรง |
|
ผิดประสงค์ พวกขอม มิยอมยิน |
เป็นปลายเหตุ ประเทศสยาม ตามวิเคราะห์ |
|
ค้นทางเสาะ เจาะหาจริง สิ่งศาสตร์ศิลป์ |
นักประวัติ จัดแผก แยกแดนดิน |
|
ในท้องถิ่น อพยพ บรรจบกัน |
เหตุผลไหน ใครคิดออก บอกความเชื่อ |
|
ได้ทุกเมื่อ เหนือความรู้ ผู้สร้างสรรค์ |
ธรรมชาติ ของมนุษย์ สุดรำพัน |
|
เปลี่ยนแปรผัน พันธุ์เผ่า เหล่ากลมกลืน |
บนแหลมทอง ของเรา หลายเผ่าเชื้อ |
|
ยาวยืดเยื้อ ปะปน จนดกดื่น |
จากอัลไต อพยพ อย่ากลบกลืน |
|
รวมกับผืน แหลมทอง เจ้าของเดิม |
ประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อ |
|
เปลี่ยนไปเพื่อ เปลี่ยนผู้นำ พฤติกรรมเสริม |
อิทธิพล ศาสนา มาเพิ่มเติม |
|
ตั้งต้นเริ่ม จนเป็นชาติ ราชวงศ์ |
๏ แคว้นน้อยใหญ่ สมัยนั้น ฐานอำนาจ |
|
หลายเชื้อชาติ ราชประเพณี เครื่องชี้บ่ง |
ผูกสัมพันธ์ ฉันท์เชื้อสาย เป็นใยโยง |
|
สินค้าส่ง สงครามเคือง เมืองดินแดน |
แคว้นลำพูน หริภุญไชย ใกล้โยนก |
|
รวมกันยก เป็นล้านนา ณ เชียงแสน |
ศรีรัตนา คนหุต ไกลสุดแดน |
|
ศรีโคตรบูรณ์ ก็คือแคว้น นครพนม |
เป็นแคว้นเก่า เกิดมาก่อน ในตอนนั้น |
|
ถูกรังสรรค์ จนสำเร็จ ได้เสร็จสม |
เป็นล้านช้าง สร้างเป็นชาติ มีธาตุพนม |
|
ประสานสม มีสมบัติ วัฒนธรรม |
ดินแดนขอบ รอบฝั่งโขง เหนือลงใต้ |
|
เมืองน้อยใหญ่ รุ่งเรือง เมืองริมน้ำ |
ชนเผ่าไทย สายเบียนฟู อยู่น้ำดำ |
|
วัฒนธรรม แห่งล้านช้าง สร้างอิทธิพล |
เมืองละโว้ ลพบุรี แคว้นที่ลุ่ม |
|
สุพรรณภูมิ ลุ่มแม่น้ำ ตามแห่งหน |
อาศัยน้ำ และลำคลอง ป้องกันตน |
|
รวมผู้คน ร่วมแรง แปงบ้านเมือง |
กลุ่มวัฒนธรรม ทวาราวดี มีให้เห็น |
|
หลายแคว้นเป็น มิตรศัตรู อยู่ต่อเนื่อง |
ยกสัมพันธ์ บรรณาการ สืบสานเมือง |
|
มีหลายเรื่อง นิยายเล่า เราได้ฟัง |
เมืองละโว้ โบราณ สืนสานย้อน |
|
รุ่งเรืองก่อน กลุ่มใหญ่ คล้ายฝรั่ง |
มีดินแดน ในเขมร เป็นกำลัง |
|
จนกระทั่ง ฝังรากกลืน อยู่ยืนยง |
ทั่วแดนดิน ศิลป ศาสนา |
|
ศิลป วิทยา ก็สูงส่ง |
ที่นคร ศรีธรรมราช ศาสน์มั่นคง |
|
ลังกาวงศ์ พงศาวดาร จดจารมา |
หลายหลากล้วน เป็นแหล่ง แห่งกำเนิด |
|
เป็นที่เกิด เมืองใหญ่ ในรัฐา |
เกิดสร้างบ้าน แปงเมือง ต่อเนื่องมา |
|
อยุธยา เมื่อคราถึง คล้ายคลึงกัน |
อาณาจักร ศรีวิชัย ในจารึก |
|
เมื่อพ่ายศึก ก็เป็นเหตุ ยอมเขตขันฑ์ |
สุโขทัย ก็ได้ครอง พี่น้องกัน |
|
ทุกแคว้นนั้น มีกลุ่มเจ้า เข้าครอบครอง |
ทั้งรวมแยก แตกหน่อ ก่อแคว้นใหม่ |
|
รวมแคว้นใหญ่ ให้อยู่ หมู่สามสอง |
ขึ้นไม่ขึ้น แก่กัน ด้านปกครอง |
|
เกิดทำนอง ต้องต่อสู้ ผู้บีฑา |
๏ ย้อนกลับดู สุโขทัย สมัยขอม |
|
หากไม่ยอม รับบทบาท ศาสนา |
ถูกกำจัด ราชวงศ์ ส่งศาสตรา |
|
แย่งพารา จากผาเมือง ขุ่นเคืองใจ |
เมื่อขุนบาง กลางท่าว เข้าช่วยรบ |
|
ได้ประสบ สำเร็จสรรพ จึงขับไส |
ยึดจากขอม ยอมแพ้ แท้เคืองใจ |
|
ความเลวร้าย ไม่หมด แถมบดบัง |
เหตุสับสน พ้นยุคราม สัมพันธ์กระเพื่อม |
|
คราวยุคเสื่อม สุโขทัย เมื่อภายหลัง |
กับศรีสัช นาลัย จึงได้พัง |
|
สลักล้าง เมืองชะเลียง เห็นเพียงรอย |
ที่เกริ่นกล่าว เล่าไว้ ไม่ไร้ค่า |
|
ใช้นำพา เห็นภาพ รับทีถ้อย |
ราชวงศ์ นำถม จมภูดอย |
|
หลงเหลือน้อย สถาปนา มาสองแคว |
เมื่ออโยธยา มหาอำนาจ ชาติยิ่งใหญ่ |
|
สุโขทัย พบสงคราม ความพ่ายแพ้ |
ต้องถูกยุบ ลูบคม ตรมดวงแด |
|
สิ่งไม่แพ้ แน่ชนะ คืออารยธรรม |
๏ ประวัติศาสตร์ ชาติจารึก เริ่มศึกษา |
|
จากศิลา เสาหลัก รู้จักสยาม |
ยุคสมัย ได้ข้อมูล จากขุนราม |
|
เห็นเนื้อความ นำวิจัย ได้คำแปล |
จุดสังเกตุ เหตุการณ์ ที่ปรากฏ |
|
ใช้เพิ่มลด เหตุผล จนนิ่งแน่ |
เหตุผลอื่น ยืนยัน เมื่อผันแปร |
|
อาจเพียงแต่ เห็นได้ ในเหตุการณ์ |
อันองค์ราม คำแหง ไม่แจ้งเกิด |
|
ถือกำเนิด สมภพ ครบหลักฐาน |
นำสงคราม ขุนสามชน ค้นพยาน |
|
รู้ว่าท่าน พอศอใด ได้ข้อมูล |
พระชนมายุ สิบเก้า เข้าชนช้าง |
|
ได้สมอ้าง จากพอศอ หนึ่งแปดศูนย์ศูนย์ |
พันเจ็ดร้อย แปดสิบ หยิบข้อมูล |
|
องค์พ่อขุน ถือกำเนิด เกิดเป็นชาย |
สุโขทัย ได้ขุนศรี อินทราทิตย์ |
|
ศึกประชิด รอบกรุง ยุ่งเหลือหลาย |
รามคำแหง แรงต่อตี เข้าคลี่คลาย |
|
ชนะชัย ขุนสามชน จนลือนาม |
เป็นปีเริ่ม ประเดิมชาติ อำนาจน้อย |
|
ทัพทะยอย ยึกยัก เป็นขวากหนาม |
มีนักรบ เป็นลูก บุกปราบปราม |
|
คือเจ้าราม งามยุทธ ยอดปัญญา |
อนุสรณ์ วีรกรรม ทำการยุทธ์ |
|
ยอดบุรุษ คำแหง อันแกร่งกล้า |
ชนะศัตรู คู่อริ ของบิดา |
|
สถาปนา สุโขทัย ได้แผ่นดิน |
๏ ทรงนักรบ จบยุทธ สุดกล้าหาญ |
|
ปฏิภาณ และสติ ดังสิขินทร์ |
พ่อจะพ่าย ลูกไม่แพ้ แม้ราคิน |
|
ด้วยยุทธศิลป์ ทรงไสช้าง นั่งเบกพล |
เข้าห้ำหั่น ฟันสู้ ศัตรูพ่อ |
|
ขาดบนคอ มาศเมืองช้าง อย่างเข้มข้น |
พวกศัตรู แพ้พ่าย เสียไพร่พล |
|
ต่างดิ้นรน จนสิ้นเชิง กระเจิงไพร |
วีรกรรม รามคำแหง เมื่อแจ้งเหตุ |
|
หลายแคว้นเขต สยบยอบ นอบน้อมให้ |
ได้ตำแหน่ง แม่ทัพ รับงานไป |
|
เมืองน้อยใหญ่ ใต้อำนาจ จัดบรรณาการ |
กลุ่มแคว้นใด ข้อแข็ง คำแหงปราบ |
|
จนราบคาบ ทราบกันดี มีกล่าวขาน |
อาณาจักร สยามไทย เพียงไม่นาน |
|
แผ่ไพศาล ถึงอำนาจ ราชอาณา |
ประเพณี ตีศึกไหน ได้ชนะ |
|
มีเกณฑ์กะ ปะปน คนช้างม้า |
จะกวาดต้อน วัวควาย ไปพารา |
|
เพื่อนำมา เป็นสมบัติ แห่งรัฐตน |
ตั้งแต่ต้น สุโขทัย เมื่อใดรบ |
|
องค์รามจบ กระบวนรุก ทุกแห่งหน |
รวมเงินทอง ของมีค่า และผู้คน |
|
ด้วยเบกพล คู่ชัย ถวายบิดา |
กษัตริย์องค์ ที่สอง ลูกนางเสือง |
|
คือบานเมือง ผู้เรืองเดช พระเชษฐา |
ขององค์ราม ตามครรลอง ครองพารา |
|
พระปรีชา แห่งองค์ราม นำพาชัย |
กษัตริย์ครอง สองรัชกาล ผ่านพิภพ |
|
องค์รามรบ กวาดต้อน ผ่อนแรงให้ |
นำผาสุข มาสู่ สุโขทัย |
|
ดั่งจารนัย แผ่นศิลา คุณค่าอนันต์ |
ปราบศึกมาก จากเมืองใกล้ ไปไกลโพ้น |
|
อำนาจท้น อิทธิพลสูง ดังมุ่งฝัน |
เพราะเปรื่องปราชญ์ สามารถรบ มีครบครัน |
|
เป็นราชันย์ อันกระเดื่อง เรืองฤทธี |
๏ ครั้งเยาว์วัย ไปพากเพียร เรียนฝึกหนัก |
|
ที่สำนัก สุกรรที นตฤาษี |
ตามหลักฐาน อาจารย์ละโว้ ลพบุรี |
|
องค์รามมี เพื่อนร่วมคำ น้ำสาบาน |
ถึงสององค์ ทั้งทรงฤทธิ์ สิทธิศักดิ์ |
|
เป็นเพื่อนรัก ร่วมวัย ไว้สืบสาน |
มีเกี่ยวข้อง ต้องความ ตามตำนาน |
|
สององค์นั้น คืองำเมือง และเม็งราย |
ตอนเรียนร่ำ กรำฝึก บันทึกเรื่อง |
|
ขุนงำเมือง ผู้เรืองฤทธิ์ เป็นมิตรสหาย |
อีกหาญกล้า รบเก่ง ขุนเม็งราย |
|
เพื่อนร่วมตาย เพื่อนกอดคอ พ่อขุนราม |
สามพระองค์ ทรงตำนาน ในการศึก |
|
ในสำนึก แห่งศัตรู ผู้เข็ดขาม |
ดังสามไทย อยู่รอด ปลอดสงคราม |
|
เป็นความงาม สามกษัตริย์ รวมรัฐไทย |
๏ สิ้นกษัตริย์ สองรัชกาล สืบสานต่อ |
|
เป็นเหมือนพ่อ ของเขตคาม พระนามไท้ |
พ่อขุนราม คำแหง แห่งรัฐไทย |
|
ผู้ยิ่งใหญ่ สุโขทัยเรือง เมืองจำเริญ |
ราวหนึ่งแปด สองสอง ขึ้นครองราชย์ |
|
เป็นกษัตริย์ ที่ปวงประชา พาสรรเสริญ |
ทุกมื้อเมื่อ ทูนเหนือเกล้า เขาเทิดเทิน |
|
ประชาชนเพลิน ผาสุข ทุกคืนวัน |
มหาราช ชาติยิ่งใหญ่ ในสยาม |
|
พระองค์ราม งามยิ่ง พระมิ่งขวัญ |
พระราชกิจ ทรงการ งานสำคัญ |
|
ผู้สร้างสรรค์ ความเป็นไทย ให้ยืนยง |
ทรงเป็นพ่อ ต้องขอกล่าว เล่าประวัติ |
|
มหาราช ดังศิลา จารึกบ่ง |
จากข้อมูล หนุนนำ เจตจำนง |
|
ความมั่นคง ปึกแผ่น แคว้นสุโขทัย |
ยี่สิบปี บวกลบ ครบครองราชย์ |
|
ทรงสร้างชาติ จัดแบบแผน แสนยิ่งใหญ่ |
พระกุศล จนบัดนี้ จึงมีไทย |
|
คงอยู่ได้ ด้วยพระคุณ พ่อขุนราม |
๏ หลักที่หนึ่ง ซึ่งศิลา จารึกเหตุ |
|
พระโปรดเกตุ ให้ทำไว้ ในสยาม |
แหล่งที่มา ศิลานี้ มีข้อความ |
|
เนื่องกับราม คำแหง แจ้งบทจร |
ข้อมูลสมเด็จ กรมพระยา สมณเจ้า |
|
บันทึกกล่าว ลงสมุดไทย ในอนุสรณ์ |
ของสามพระยา ปวเรศ วชิราลงกรณ์ |
|
เป็นครูสอน แจ้งประจักษ์ หลักศิลา |
องค์
ร.สี่ จอมเกล้า เจ้ามงกุฏ |
|
ไปพบจุด เจอแหล่ง ตะแคงหน้า |
พวกชาวบ้าน ทำศาลเจ้า เฝ้าศรัทธา |
|
ต่างบูชา ศิลาแท่น แก่นที่พัง |
จากริมเทิน เนินปราสาท จัดเป็นศาล |
|
นำล่องธาร ลงแพ และรับสั่ง |
ชะลอขน ขึ้นบนแท่น แผ่นผนัง |
|
ศิลาตั้ง สมอราย พระอาราม |
อยู่หน้าโบสถ์ วัดรา ชาธิวาส |
|
อันเป็นวัด จำพรรษา ใต้มะขาม |
พร้อมจารึก หลักที่สี่ ที่เรียกนาม |
|
เป็นจารึก พ่อขุนราม ตามบัญชา |
หลักที่สี่ บนศิลา ภาษาเขมร |
|
สองหลักตาม พระปรเมนทร์ จำพรรษา |
ไปตั้งไว้ บวรนิเวศ เขตพารา |
|
แล้วต่อมา ไปศาลาราย ในราชวัง |
เมื่อ
ร.สี่ ทรงเสวย ราชสมบัติ |
|
ต่อมาจัด ที่อยู่ให้ ในภายหลัง |
แท่นศิลา มาอยู่ใหม่ ไม่พ้นวัง |
|
สุดท้ายตั้ง แนบสนิท พิพิธภัณฑ์ |
๏ แผ่นศิลา มหาประโยชน์ จดหมายเหตุ |
|
สุดวิเศษ สื่อภาษา ที่สร้างสรรค์ |
มีข้อความ ตามประวัติ จัดรำพัน |
|
เล่าเหตุการณ์ พระราชกิจ มิบิดเบือน |
ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศรีสมัย |
|
สมบัติไทย ล้ำค่า หาใดเหมือน |
ฉบับแบบ โบราณ ชาวบ้านเรือน |
|
เป็นสิ่งเตือน แจ้งชัด พัฒนา |
กิจกรรม กิจการ หลักฐานแจ้ง |
|
สิ่งสำแดง แห่งบ้านเมือง เรื่องภาษา |
สัญญลักษณ์ หลักการ ภูมิปัญญา |
|
ดังพระแท่น มนังคศิลา โบสถ์อาราม |
ต้นกำเนิด อักษรไทย ได้ประดิษฐ์ |
|
ขุนรามคิด อักขระ ของสยาม |
เป็นตัวเขียน หนังสือ เพื่อสื่อความ |
|
วิเคราะห์ตาม หลักศิลา ภาษาตน |
หินชนวน เขียวหนา ลงจารึก |
|
จดบันทึก สื่อสำแดง หลายแห่งหน |
ทรงจัดตั้ง กลางดงตาล ชาวบ้านยล |
|
ความคงทน อยู่ได้ หลายพันปี |
ปัญญาปราชญ์ ฉลาดคิด สถิตหล้า |
|
แท่นศิลา ของพระองค์ ผู้ทรงศรี |
เก็บรักษา ลายสือสรรค์ วรรณคดี |
|
รู้ทันที ว่าพระองค์ ทรงประพันธ์ |
จึงยึดถือ หนังสือไทย คงทนแท้ |
|
พระองค์แรก เป็นของแน่ ที่สร้างสรรค์ |
บนแผ่นดิน ศิลป์ภาษา คุณค่าอนันต์ |
|
องค์เทวัญ ผู้สรรค์สื่อ หนังสือไทย |
๏ อักษรขอม ที่เคยใช้ ในอดีต |
|
ขุนรามคิด ผลิตเปลี่ยน เพียรแก้ไข |
มาสำเร็จ เสร็จยุค สุโขทัย |
|
บันทึกไว้ ในหลัก ปักศิลา |
มีสระ วรรณยุกต์ ทุกซุ่มเสียง |
|
ผุดเผดียง เรียงราย ทั้งซ้ายขวา |
ทั้งบนล่าง วางเครื่องหมาย มีใช้มา |
|
พยัญชนะ กล้ำควบ ทรงรวบรวม |
ท่านศึกษา พม่ามอญ อักษรเสียง |
|
ครบสำเนียง เสียงดนตรี มีมาสรวม |
เขียนจากซ้าย ไปทางขวา อย่ากำกวม |
|
เขียนเรียงรวม ปฏิบัติ บรรทัดเดียว |
มีวรรคเว้น เป็นจังหวะ ภาษาพูด |
|
วางกลสูตร แกนแก่น อย่างแน่นเหนียว |
พญาลิไท ได้ปรับแปลง แต่งนิดเดียว |
|
ไปข้องเกี่ยว ในเพื่อนบ้าน เช่นล้านนา |
พวกล้านช้าง ต่างเห็นตาม นำไปใช้ |
|
อย่างแพร่หลาย ได้เฟื่องฟู รู้ภาษา |
ง่ายต่อสื่อ ถือข้อความ ตามสารา |
|
พัฒนา ทางปฏิบัติ ถึงปัจจุบัน |
พัฒนา ภาษาไทย ไม่จบสิ้น |
|
ภาษาถิ่น เป็นเอก ถูกเสกสรรค์ |
ปรับประยุกต์ ทุกลีลา มาด้วยกัน |
|
สารพัน ผูกไว้ เป็นไวยากรณ์ |
ได้เพิ่มลัด ตัดตาม งามระเบียบ |
|
เขียนราบเรียบ รายเรียง เคียงอักษร |
ทั้งรูปลด สกดกานต์ ทุกขั้นตอน |
|
เป็นอนุสรณ์ สืบให้ ไทยรุ่งเรือง |
เป็นคุณู ครูภาษา มหาราช |
|
แสดงให้เห็น ว่าเป็นชาติ ที่ฟูเฟื่อง |
เอกลักษณ์ เอกราช อันรองเรือง |
|
จนบ้านเมือง กระเดื่องหล้า ภาษาตน |
๏ หลักที่หนึ่ง ซึ่งจารึก เรื่องหลากหลาย |
|
นักกฎหมาย ยอมรับหลัก เป็นมรรคผล |
ฉบับแรก ของกฎหมาย ไทยได้ยล |
|
เกี่ยวกับคน และโครงสร้าง ของสังคม |
เป็นหลักฐาน การปกครอง กลั่นกรองไว้ |
|
ชาวประชา หน้าใส ใต้เงาร่ม |
มีระเบียบ วางระบอบ ชอบนิยม |
|
เกิดเกลียวกลม รักใคร่ สามัคคี |
การปกครอง แบบพ่อ มีต่อลูก |
|
สัมพันธ์ผูก ผิดถูกรัก ด้วยศักดิ์ศรี |
เมื่อถูกผิด คิดร้าย ให้พ่อตี |
|
เมื่อลูกดี พ่อชอบ มอบรางวัล |
พ่อขุนราม ตามติด ใกล้ชิดเชื้อ |
|
ทุกมื้อเมื่อ พ่อดูแล แม่ขยัน |
ทุกชีวิต มิผิดแผก แตกต่างกัน |
|
ทุกชนชั้น คือปุถุชน คนทั่วไป |
ใช้กูมึง ซึ้งซับ กำซาบจิต |
|
ยังไม่คิด ศัพท์แสลง หรือแบ่งไว้ |
ราชสกุล สถุนชน เป็นคนใด |
|
จะเป็นไพร่ ผู้ดี วจีเดียว |
มีความเหมือน ที่แตกต่าง ทางฐานะ |
|
จะเป็นพระ เป็นแม่ทัพ ไปขับเคี่ยว |
มีภาษาที่ ซาบซึ้ง เพียงหนึ่งเดียว |
|
มิได้เกี่ยว คำศัพท์ สรรพนาม |
๏ การจัดทัพ จับหมู่ ไปสู้ศึก |
|
กำลังผนึก ไม่นึกหนี หรือผลีผลาม |
ขยายเขต จนเสร็จสิ้น กลิ่นสงคราม |
|
เมื่อถึงยาม ทนทุกข์ หาสุขเติม |
ฝ่ายปกครอง มองประชา ว่าเป็นเพื่อน |
|
คอยตักเตือน ระวังศัตรู ผู้ฮึกเหิม |
ผู้ปกครอง ต้องแนะนำ ไม่ซ้ำเติม |
|
ให้ริเริ่ม ประเดิมอย่าง ต่างคุณครู |
บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และผู้สอน |
|
ทุกขั้นตอน ให้รอบคอบ และรอบรู้ |
ท่านติดตาม ความสงสัย ตามไปดู |
|
เพื่อให้รู้ เหตุผล ด้วยตนเอง |
สอนซื่อสัตย์ ยุติธรรม คำตัดสิน |
|
ตามกระบิล แห่งกฎหมาย ไร้ข่มเหง |
ของเหล่าร้าย ฝ่ายทำผิด ไม่คิดเกรง |
|
ใครอวดเบ่ง เก่งโกง ต้องลงทัณฑ์ |
ประตูวัง สร้างแท่น แขวนกระดิ่ง |
|
เมื่อเจอสิ่ง เลวร้าย ให้มาสั่น |
เพื่อแจ้งเหตุ เภทภัย เป็นรายวัน |
|
ร้องเรียนกัน สั่นให้รู้ ฟ้องคู่คดี |
ทรงสั่งสอน อบรม บ่มนิสัย |
|
ให้ชาวไทย เชื่อพุทธองค์ ผู้ทรงศรี |
ใช้ศีลธรรม นำทาง สร้างความดี |
|
พระองค์มี เมตตา ประชาชน |
๏ อุปถัมภ์ ค้ำชู ดูแลพระศาสน์ |
|
ปฏิบัติ สู่แวว แนวกุศล |
ปฏิสังขรณ์ พระอาราม งามยุคล |
|
พุทธมนต์ กุศลศีล ทั่วถิ่นเรือน |
ไม่เข่นฆ่า ด่าศัตรู ผู้แพ้พ่าย |
|
บำรุงกาย ให้ดูเลี้ยง เยี่ยงฉันท์เพื่อน |
รักษาศีล กฐินทาน ตามบ้านเรือน |
|
มิคลอนเคลือน เลือนละ ประเพณี |
ย่านแดนดิน ถิ่นแคว้น แสนไกลห่าง |
|
นั้นก็ต่าง อ่อนน้อม ยอมศักดิ์ศรี |
บรรณาการ จัดถวาย ให้โดยดี |
|
มิต้องตี บีฑา ออกฆ่าฟัน |
พวกมากาว ลาวดู หมู่ไทยของ |
|
เขตมอญครอง เมาะตะมะ ตะนาวศรี |
เวียงจันทร์ ม่านพม่า หงสาวดี |
|
นครศรี ธรรมราช จดชวา |
สดุดี วีระไทย ในพ่อขุน |
|
ผู้เมตตา การุณ เป็นหนักหนา |
สยบราบ ปราบเตียน เหี้ยนพารา |
|
พระปรีชา กล้าหาญ และชาญชัย |
ความจำเริญ ก้าวหน้า มีต่อเนื่อง |
|
ชาวบ้านเมือง แจ่มฟ้า ใบหน้าใส |
น้ำมีปลา นามีข้าว ให้ชาวไทย |
|
สิริวิไล รัฐเอกราช ชนชาติเสรี |
๏ ความประเทือง เรืองจำเริญ เกินคาดคิด |
|
เศรษฐกิจ ประสิทธิสรรค์ ขมันขมี |
เรื่องโกงกิน นั้นห่างไกล ไม่เคยมี |
|
คนกินดี อยู่ดี มีสุขใจ |
นโยบาย การค้า เรื่องภาษี |
|
ค้าเสรี ภาษีด่าน ยกผ่านให้ |
เศรษฐกิจ การค้า น่าชื่นใจ |
|
พวกไพร่ฟ้า หน้าใส ไปตามกัน |
จะค้าวัว ค้าควาย ก็ให้ค้า |
|
จะค้าม้า ค้าทอง ไม่ต้องหวั่น |
เพียงจังกอบ ส่วนหนึ่ง พึ่งพากัน |
|
ความสุขสันต์ ถ้วนหน้า ประชากร |
ยกกฎหมาย ทางแพ่ง แบ่งสินทรัพย์ |
|
ทายาทรับ มรดก ตกทอดก่อน |
ได้แก่บุตร สุดสายใย ในอุทร |
|
ลดเดือดร้อน ผ่อนคลาย ให้กลับดี |
คนสามัญ อยู่ชั้นไพร่ ก็ได้สิทธิ์ |
|
เอาความผิด ขั้นสูงกว่า เจ้าหน้าที่ |
ร้องพ่อขุน พิจารณา ว่าคดี |
|
และบางที คดีสำคัญ ท่านว่าเอง |
องค์เจ้าราม ตามดูแล แก้ปัญหา |
|
ไม่ล่าช้า บิดขบวน ไต่สวนเร่ง |
เสียงกระดิ่ง สั่นไหว ไม่วังเวง |
|
ว่าความเอง โดยตรง ด้วยองค์ราม |
เรื่องสิทธิ ทำกิน ที่ดินกว้าง |
|
ผู้ถากถาง ได้สิทธิ ไม่คิดห้าม |
มีกฎหมาย คุ้มครอง ของเขตคาม |
|
สมัยราม คำแหง ไม่แย่งกัน |
ไพร่ฟ้าหน้าปก พสกนิกร แบ่งตอนไว้ |
|
พวกไพร่ฟ้า หน้าใส คือนายทหาร |
ไพร่ฟ้าหน้าไท คือทาสทน คนทำงาน |
|
ประกอบการ ด้วยกัน สามัญชน |
สุโขทัย ในสังคม สมควรกล่าว |
|
มีเรื่องราว ไม่ลี้ลับ หรือสับสน |
ความสมถะ อันพอดี ที่ปวงชน |
|
เศรษฐีจน อยู่บนภาค ภราดร |
๏ ล่วงลุกาล ถึงวันนี้ ที่เหมือนภาพ |
|
ฝังซึมซาบ เพียงทรง อนุสรณ์ |
ฝั่งน้ำน่าน ผ่านถิ่น แดนดินดอน |
|
เตือนอาวรณ์ สอนสั่ง ฝังความงาม |
รามคำแหง แหล่งเรียนรู้ ผู้ฝักใฝ่ |
|
สุโขทัย แหล่งใจนึก ปึกแผ่นสยาม |
ภาพเมืองผัง พลังสังคม สมบูรณ์งาม |
|
ส่องแวววาม ประกาย ในใจคน |
เกษตรกรรม ทำได้ น้ำไม่ขาด |
|
ที่ลุ่มลาด นองหลากไหล หลายแห่งหน |
มีพอเลี้ยง เพียงพอใช้ ไม่มีจน |
|
ไม่ดิ้นรน หรือทนทุกข์ สุขสำราญ |
มีกระพัง สร้างเก็บน้ำ ดำหว่านกล้า |
|
ข้าวผักปลา มากนัก ภักษาหาร |
ความอุดม สมบูรณ์สุข ทุกเรือนชาน |
|
แหล่งสถาน รื่นรมย์ สมใจจินต์ |
แคว้นใกล้ไกล ขายค้า มาถึงที่ |
|
รุ่งเรืองดี มีรายรับ มีทรัพย์สิน |
แขกฝรั่ง ต่างขายค้า มาจากจีน |
|
ประดิษฐ์ศิลป์ เรียนรู้ คู่วัฒนธรรม |
พุทธแบบลังกา มาเรืองรุ่ง ศาสน์สูงส่ง |
|
ทรงเป็นองค์ อัครศาสนู อุปถัมภ์ |
ทั้งถือศีล บุญทาน ท่านน้อมนำ |
|
ถือหลักธรรม นำเผยแพร่ อย่างแท้จริง |
เรื่องเทพ ผีมีเชื่อ ที่เหลืออยู่ |
|
คุ้มครองอู่ หมู่เหล่า และเข้าสิง |
เป็นที่มา วัฒนธรรม ตามอ้างอิง |
|
มีหลายสิ่ง เป็นที่มา ประเพณี |
บูรณะ พระวัด จัดให้สร้าง |
|
วางแบบอย่าง ค่านิยม สมวิถี |
ทำศาลา สง่าทรง องค์เจดีย์ |
|
แบบพิธี มีตัวอย่าง ดังชัดเจน |
๏ ทรงอภิเษก กับนามใด ไม่ปรากฏ |
|
ตรวจสิ้นหมด ก็ยังไม่ ได้พบเห็น |
มีโอรส สององค์ ได้ทรงเป็น |
|
ดังกฏเกณฑ์ ปฏิบัติ กษัตรา |
พระเจ้าเลอไทย สืบต่อ องค์พ่อขุน |
|
แต่ภายหลัง ชุลมุน มีปัญหา |
ถึงโอรส องค์ที่สอง รองต่อมา |
|
ได้กรีฑา ขัดขืน ได้คืนเมือง |
คือพญา ลิไท ผู้ใหญ่ยิ่ง |
|
ได้สรรสิ่ง สำคัญ อันลือเลื่อง |
เป็นสมบัติ ศาสนจรุง ที่รุ่งเรือง |
|
ได้สืบเนื่อง ถ่ายทอด ตลอดมา |
พระราชนิพนธ์ ของลิไท ไตรภูมิพระร่วง |
|
ฉบับหลวง ว่าไว้ ในคาถา |
เป็นหนังสือ ถือปฏิบัติ ด้วยศรัทธา |
|
สิ่งล้ำค่า แห่งพุทธ สุดยอดวรรณกรรม |
ท่านยังมี พระธิดา อีกองค์หนึ่ง |
|
ความลึกซึ้ง ด้านสัมพันธ์ ทุกย่านน้ำ |
อภิเษก เจ้าฟ้ารั่ว ตัวผู้นำ |
|
เพื่อการทำ ไมตรี มีต่อกัน |
พระนางเทพ สุดาสร้อยดาว องค์ที่สาม |
|
พ่อขุนราม
สมรสให้ กับมอญนั่น |
อีกนามหนึ่ง สุวรรณเทวี มีความสำคัญ |
|
ด้วยเชื่อมั่น ขยายเมือง ให้เรืองรอง |
๏ พระราชกรณีย์ ที่เล่า กล่าวมานั้น |
|
เสด็จสวรรค์ ปีหนึ่ง แปดสี่สอง |
นักประวัติ ชาติไทย สุดไตร่ตรอง |
|
ชาวไทยผอง มองมหาราช ได้ชัดเจน |
ราวยี่สิบปี ที่พระองค์ ทรงครองราชย์ |
|
ประเทศชาติ สมบูรณ์สุข ไร้ทุกข์เข็ญ |
ประชาชน มิยากไร้ ไทยร่มเย็น |
|
สมแล้วเป็น มหาราช แห่งชาติไทย |
เป็นความจริง ทุกสิ่งมี ความดีแสน |
|
ดังที่แท่น แผ่นศิลา จารึกไว้ |
ไทยทั่วหล้า บูชาองค์ พระทรงชัย |
|
ขอถวาย ใจศรัทธา สดุดี |
|
|
พล.ต.วิเชียร ชูปรีชา 8 เม.ย.55 |