นิราศภูเก็ต

เพียงแต่คิด  ว่าจะไป  ใจคิดถึง                                          จิตตราตรึง  หลงติดตาม  ยามห่างเหิน

นิราศร้าง  ครั้งนี้  มิบังเอิญ                                                 ถูกเชื้อเชิญ  จากน้องพี่  มีน้ำใจ

การเดินทาง  ดังแผนนี้  ตามมีเกิด                                                     เพื่อเพลินเพลิด  ตลอดทาง  ถึงที่หมาย

มาดมุ่งมั่น  กระชับมิตร  จิตผ่อนคลาย                                             ลงภาคใต้  สู่ภูเก็ต  เพชรดามัน

เป็นเกาะใหญ่  ทั้งไทยลาว  และชาวเทศ                                        มองภูเก็ต  เป็นแดนดิน  ถิ่นในฝัน

ได้สัมผัส คราครั้งใด  ใจผูกพัน                                                         เหมือนสวรรค์  ประทานให้  ชาวไทยครอง

ท่านพลโท  อัฐพล  คนริเริ่ม                                              สุธนเสริม  เล่าฮูชอบ  ตอบสนอง

คนที่สี่  มีวิเชียร  เขียนทำนอง                                                           เป็นร้อยกรอง  เชิงประวัติ  นิราศไกล

ธรรมดา  ดีกีฬา  เรื่องตีกอล์ฟ                                                            ได้ออกรอบ  ออกกำลัง  เป็นครั้งใหญ่

อวัยวะ  สรรพางค์  แห่งร่างกาย                                                        ทั้งหัวใจ  และสมอง  คล้องสมดุล

บรรยากาศ  ทัศนา  พาใจชื่น                                                             ร่มเริงรื่น  เรื่องวุ่นวาย  มลายสูญ

มากมวลมิตร  จิตฮึกเหิม  เสริมเพิ่มพูน                                            กอล์ฟเกื้อกูล  กิจการ  สานสัมพันธ์

จะตีกอล์ฟ  หลุมใด  ดวงใจคิด                                                          โอ้มิ่งมิตร  อยู่แห่งไหน  พี่ใจมั่น

อยากตีไกล  ใกล้ธง  ยอดนงคราญ                                                   ขอความฝัน  เพียงโบกี้  มิอาวรณ์

แผนเดินทาง  ในครั้งนี้  ที่ภูเก็ต                                        ปรับแผนเสร็จ  สนามหรู  บลูแคนย่อน

สี่สิงห์เหนือ  เมื่อล่องใต้  ได้ราญรอน                                             กะต่อกร  ที่ท้ายเหมือง  เมืองพังงา

สองร้อยสาม  สิบเก้าปี  รวมสี่คน                                                      คุณสุธน  เป็นคนหนุ่ม  ยังก้าวหน้า

แอบฝึกฝน  จนแกร่ง  แรงฤทธา                                                       ได้สมญา  มือระเบิด  ตีเถิดเทิง

ทีออฟดี  ตีไป  ไกลลิบลิ่ว                                                                   ลูกโปรยปลิว  สู่นภา  นางฟ้าเหริง

ตกคงคา  ลงป่าชัฏ  ซัดกระเจิง                                                          ใส่ชั้นเชิง  ลีลา  ดูน่ากลัว

วัชรินทร์  หรือ  เล่าฮู  ผู้พิชิต                                                             ขยันฟิต  ร่างกาย  ไปจองตั๋ว

ซุ่มซ้อมจัด  ชิป  พัต  ไดร้ฟ  เสียให้ชัวร์                                          ตระเตรียมตัว  กลัวเสียชื่อ  มือแชมป์เดิม

ออกตระเวน  หลายสนาม  ตามแข่งขัน                                           ประสบการณ์  แก้ปัญหา  เอามาเพิ่ม

อาวุธลับ  จับมาไว้  ใส่เพิ่มเติม                                                           จากที่เดิม  นั่นคือห้าง  บางลำพู

ตัวผมเอง  ยังเกรงกริ่ง  ยิ่งโรคเก่า                                     ถ้าโรคเก๊า  มาวุ่นวาย  ลายเป็นหมู

อ่อนซ้อมหน่อย  ค่อยประคอง  จะลองดู                                         ใจยังสู้  รู้เชิงชั้น  ยังมั่นใจ

รวมพลัง  ตั้งหน้า  หาที่ซ้อม                                                              จะไม่ยอม  โดนถล่ม  จมง่ายง่าย

ขอพาดวง  ไปเล่นด้วย  ช่วยผ่อนคลาย                                            บันทึกไว้  ด้วยสุนทร  กลอนวาที

มือเหนือกว่า  ไม่ว่าใคร  ใจต้องพรั่น                                               ท่านผู้นั้น  อัฐพล  เป็นคนพี่

เอ็กสะเปิดร์  เลิศล้ำ  คร่ำเวที                                                             เทอร์โบดี  ซุปเปอร์เด่น  ไม่เว้นใคร

หกกิโล  โวทุกวัน  ขยันวิ่ง                                                 ไม่แน่จริง  อย่าหาญสู้  ผู้ยิ่งใหญ่

ทั้งเล่าฮู  สุธน  เชียร  เซียนแค่ใด                                                      ต่างถอดใจ  ไม่กล้าฟัด  อัฐพล

กรำศึกกอล์ฟ  รอบนี้  ที่แห่งใหม่                                     เป็นศึกใหญ่  ใครซ้อมดี  ย่อมมีผล

ต่างซ้อมซุ่ม  ตะลุมบอน  ไม่ผ่อนปรน                                             ใครไม่ทน  โดนแน่  แพ้จริงจริง

ในทริปนี้  มีแต่ชาย  ใจแกร่งกล้า                                                     ดังอาชา  เผ่นจากซอง  ไม่มองหญิง

วิ่งร้อยเมตร  จากสตาร์ท  ตอนปืนยิง                                               โดดออกวิ่ง  มุ่งเส้นชัย  ไม่เหลียวมอง

การเดินทาง  หวังล่องใต้  สุดไกลแสน                                           สู่เมืองแมน  ยังไม่วาย  จะคลายหมอง

พิลัยร่ำ  คร่ำครวญ  นวลละออง                                                        อยากมีน้อง  มาด้วย  ช่วยผ่อนคลาย

วันที่สิบเจ็ด  เกือบทั้งวัน  พลันพักผ่อน                          ความใจร้อน  โทรติดต่อ  หน่อสหาย

ท่านเล่าฮู  ผู้จองตั๋ว  มัววุ่นวาย                                                           คนสุดท้าย  ถึงสามเสน  เย็นอุรา

ท่านสุธน  คนอยู่ไกล  ได้มารับ                                                         มาพร้อมกับ  อัฐพล  คนคู่ขา

ขึ้นทางด่วน  รถแล่นลัด  วิ่งตัดมา                                                     ร่ำสุรา  เรียกน้ำย่อย  คอยรถไฟ

ร้านไก่โต้ง  ริมทาง  ข้างสถานี                                                          ขึ้นโบกี้  ดงสุรา  ว่ากันใหม่

วันฮันเดรด  ไปเปอร์  เธอคู่ใจ                                                           สั่งหม้อไฟ  ใส่ชะอม  แกงส้มปลา

ผมมาถึง  สามเสน  เย็นมากแล้ว                                                        พบน้องแก้ว  โซดาน้ำ  ตามมาหา

เห็นเล่าฮู  ชูมือไม้  เดินส่ายมา                                                           ดูทีท่า  ดังโปรกอล์ฟ  ยิ้มชอบใจ

ใกล้เวลา  สถานี  มีคนขึ้น                                                  เข้าไปยืน  ชานชะลา  หน้าผ่องใส

เสียงเล่าฮู  สั่งดูของ  กองของใคร                                                    ขึ้นรถไฟ  ตู้สิบหก  ยกกันเอง

ในชุดดำ  คร่ำหวอด  ยอดนักรบ                                                       หิ้วของครบ  ขึ้นบันได  ไม่ก้างเก้ง

ทัวร์ภาคใต้  ต้องให้มัน  แบบกันเอง                                               ต้องครื้นเครง  เฮฮา  ทุกนาที

เมื่อรถไฟ  ไต่ทางโค้ง  ตรงบางซ่อน                                               จะเดินย้อน  ขึ้นมา  หาโบกี้

ตู้เสบียง  เสียงกระหึ่ม  ดื่มดีกรี                                                          กินของดี  ในรถไฟ  ไปพลาง ๆ

บารมี  ของพี่อัฐ  จัดนำเที่ยว                                              ไม่โดดเดี่ยว  เปลี่ยวฤดี  ที่หมองหมาง

มีเพื่อนพ้อง  และพี่น้อง  ที่ร่วมทาง                                 ไม่อ้างว้าง  หดหู่  แต่ผู้เดียว

ถึงปลายทาง  ยังมีคน  คอยต้อนรับ                                   ทั้งหอทับ  รับรอง  จองแน่นเหนียว

ขอแค่ให้  ได้เดินทาง  เพียงอย่างเดียว                                             พาลดเลี้ยว  เที่ยวไข่มุก  อันดามัน

ขึ้นรถไฟ  ไปสู่แดน  แสนสุดกู่                                         จากโฉมตรู  เสียให้ไกล  เลิกใฝ่ฝัน

ผ่านมาแล้ว  แล้วมา  ไม่ว่ากัน                                                            ไม่ผ่อนผัน  หรืออย่างไร  ใจน้องนาง

อันรถไฟ  ถึงปลายทาง  ยังวกกลับ                                                   แต่เธอลับ  เลี้ยวหลบ  ไม่พบหลัง

แล้วเราเล่า  เอาอย่างไร  คงวายวาง                                                  จะหานาง  ที่ไหน  ได้เคลียคลอ

เห็นแสงไฟ  สาดส่อง  มองทิศใต้                                                    เป็นรถไฟ  ขบวนยาว  เศร้าแล้วหนอ

ยิ่งไกลนาง  ห่างขวัญเรือน  เพื่อนพะนอ                                       การคอยรอ  เคลียคลอนุช  สุดจาบัลย์

ตู้นอนโท  โธ่เคยนอน  ตอนขึ้นเหนือ                                             เคยแนบเนื้อ  เมื่อยามนอน  อาวรณ์ขวัญ

ตู้เสบียง  เคยเคียงคู่  ดั่งรู้กัน                                                              ไม่มีวัน  หันจา  จำพรากเธอ

แต่คืนนี้  พี่ล่องใต้  อาลัยเจ้า                                                              มีแต่เศร้า  เหงาดวงใจ  ฤทัยเผลอ

ผ้าห่มหมอน  นอนเดี่ยว  เปลี่ยวละเมอ                                            เพราะขาดเธอ  เนื้อแนบ  เสียวแปลบทรวง

เดือนธันวา  หน้าหนาว  เร้าใจนัก                                                    ยามมีรัก  ปักใจ  ฤทัยหวง

เจอรักเล่ห์  เขวไกว  ใช้กลลวง                                                          แสนหนักหน่วง  ห่วงถวิล  สิ้นพลัง

รถไฟผ่าน  ย่านกรุงเทพ  เก็บมาฝัน                                 โอ้สวรรค์  แดนวิไล  ในความหลัง

แสงโชติช่วง  ดวงแพรวพราว  ราวเวียงวัง                                     เคยชิดนาง  ครั้งพราวใจ  ไร้กังวล

รถไฟแล่น  แดนวิไล  หัวใจแป้ว                                                   สิ้นเสียแล้ว  เหลือเพียงราง  กลางไพรสณฑ์

หากมิมี  ดวงดารา  มาให้ยล                                                               คงสิ้นชนม์  เพราะไร้นาง  กลางดงดอน

ถึงบางซื่อ  สลับลาง  ที่บางซื่อ                                          เคยเชื่อถือ  ซื่อตรง  คงคำสอน

แต่บัดนี้  ฤดีน้อง  ต้องแคลนคลอน                                  มาแยกย้อน  สลับราง  อย่างลืมตัว

อันนารี  นี้แปลก  จำแนกยาก                                                            มีฤทธิ์มาก  เจ้าประคุณ  แม่ทูนหัว

ได้หญิงดี  เป็นคู่ครอง  บุญของตัว                                                   ได้หญิงชั่ว  มาครองเรือน  เหมือนาลี

ถ้าหญิงร้าย  ชายระวัง  พอยังไหว                                                    ถ้าทั้งร้าย  ทั้งชั่ว  เตรียมตัวหนี

มันทำลาย  ทั้งลูกผัว  ตัวอัปรีย์                                                           เลวสิ้นดี  ผิดมนุษย์  สุดพรรณนา

เพียงคู่เดียว  เปลี่ยวอุรา  หน้าแห้งเหือด                                          เลยจุดเดือด  ฤทธิ์วาริน  ก็สิ้นท่า

อันกินรัก  มันหนักลิ้น  กินสุรา                                                        ดีเสียกว่า  หน้ายังแย้ม  แถมเพลิดเพลิน

รถไฟเหิน  เนินสะพาน  พระรามหก                                              จะวิตก  ไปใย  รถไฟเหิน

วิ่งตามราง  โลดแล่น  แสนเพลิดเพลิน                                           มิได้เดิน  นอกราง  ทางเปลี่ยวใจ

เพราะมีราง  ระวังไว้  อย่าได้พลาด                                  ความวินาศ  อุบัติหนัก  ยากแก้ไข

รางสลับ  คนละราง  ช่างประไร                                                       เผลอเมื่อใด  รถไฟโค่น  เพราะชนกัน

ตลิ่งชัน  ฉันเกรงกริ่ง  ตลิ่งสูง                                           เปรียบยางยูง  สูงแกร่ง  เกินแข่งขัน

จะปีนป่าย  หมายเด็ด  เกศแก่นจันท์                                                ต้องโศกศัลย์  รอตลิ่ง  ทิ้งทลาย

เห็นปทุม  พุ่มกลางธาร  บานสะพรั่ง                                               ฝันถึงนาง  คนดี  ที่ใจหมาย

เพราะบุญสิ้น  กรรมซ้ำ  มาทำลาย                                                    โอ้ดวงใจ  ห่วงหา  สุดอาวรณ์

ป่านฉะนี้  ยังมิมี  ใครกล้าเด็ด                                                           ก้านดังเพชร  บาสีทอง  ป้องเกสร

หาบุญเนา  จะเฝ้าโลม  โฉมบังอร                                                    เกรงจะย้อน  ลับอดีต  ที่กรีดทรวง

ทิ้งเหตุการณ์  นานเนิ่น  เดินทางใหม่                                             ยอมห่างไกล  สายอุบล  คนเคยหวง

อันความจริง  สิ่งที่หมาย  กลายเป็นลวง                                          ไม่มีดวง  จะได้ดอม  ถนอมนาง

รถไฟผ่าน  ย่านสถานี  แสงสีส่อง                                    คิดถึงน้อง  คนดี  มิมีสร่าง

แล่นลัดมา  แนวป่าพง  ดงข้างทาง                                                   ให้ภวังค์  ว่างเปล่า  เศร้าอุรา

ศาลายา  รักษาหาย  คลายโศกเศร้า                                                   โรคของเรา  อาการทรุด  สุดรักษา

จะเห็นใคร  นอกจากเจ้า  เข้าเยียวยา                                                สิ้นศาลา  สิ้นยาแล้ว  แก้วดวงใจ

ฉันหลงคอย  ปล่อยใจ  ให้วิโยค                                                       ในทรวงอก  ฟกร้าวราน  ถูกผลาญไหม้

ขอสักนิด  เถิดคนงาม  น้ำจากใจ                                                      ช่วยดับไฟ  ในทรวงอก  ถูกผลาญไหม้

ข่มสมาธิ  สติวาง  ตั้งหลายรอบ                                                         ถึงตีกอล์ฟ  ปลอบใจ  ไม่หายกลุ้ม

มีผีซ้ำ  ด้ำพลอย  มาคอยรุม                                                 ใช้เหล้าคุม  ก็ไม่คลาย  หายระทม

นั่งใจลอย  ปล่อยจิต  คิดยอกย้อน                                     ผ่านนคร  ไชยศรี  มีสวนส้ม

ลิ้มรสหวาน  ข้าวสารขาว  เร้าอารมณ์                                              อยากเชยชม  สาวชาวสวน  นวลอนงค์

เธองามพร้อม  กิริยา  มารยาท                                                            นุชนาถ  นวลนาง  ร่างระหง

เทพเทวี  ที่ว่าสวย  ต่างงวยงง                                                            สะเทิ้นองค์  อายเจ้า  เยาวมาลย์

เสียงห้ามล้อ  จ่อจอด  ลอดหน้าต่าง                 งามสะพร่าง  แพรวพราว  ราวสวรรค์

ยอดเจดีย์  อร่ามเหลือง  เรืองสุวรรณ                                               ทั้งโลกันต์  หาใดเปรียบ  เทียบเจดีย์

พระปฐม  เจดีย์  มีประวัติ                                                                   พุทธศาสน์  ล้ำเลิศ  ประเสริฐศรี

ของชาวไทย  สมัยทวา  ราวดี                                                             คนไทยมี  ศีลและธรรม  ประจำใจ

ราชบุรี  เมืองเพชร  รถไฟผ่าน                                          พอมันมัน  หนึ่งขวด  รวดเร็วไหม

อิ่มข้าวผัด  จัดห่มหมอน  นอนรถไฟ                                               เล่าฮูให้  กินยา  คราก่อนนอน

ผมขอที่  กับพี่อัฐ  จัดนอนล่าง                                                           เล่าฮูค้าง  กับสุธน  บนบรรจถรณ์

ผ่านหัวหิน  เมื่อใด  ใจอาวรณ์                                                          จะม้วยมรณ์  มอดไหม้  ถ้าไม่มา

เลยประจวบ  คีรีขันธ์  ไม่ทันรู้                                                           นอนคุดคู้  อยู่ที่เตียง  เพียงผวา

ถึงชุมพร  อาวรณ์ตื่น  ลุกขึ้นมา                                                         อยู่ตรงหน้า  สถานี  ที่ชุมพร

พระคุณสูงส่ง  องค์บรม  กรมหลวง                 สร้างผลพวง  ใหญ่ยิ่ง  ดั่งสิงขร

ประดู่ไทย  ใจระลึก  นึกอาวรณ์                                                        ผู้อาทร  ก่อเกื้อ  ทัพเรือไทย

เคยดูแล  ศาลองค์ท่าน  เสด็จเตี่ย                                                       ได้คลอเคลีย  เสด็จพ่อ  ขออยู่ใกล้

ท่านคุ้มครอง  ผองสื่อสาร  ผ่านพ้นภัย                                            ภาคภูมิใจ  ลูกพัน ส. ขอยอมพลี

เช้าตื่นมา  พาร่างกาย  ไปชำระ                                         ท่าชนะ  แลเห็นแสง  สุรีย์ศรี

ผ่านไชยา  ล่องลงใต้  หลายนาที                                                      ถึงสถานี  ปลายทาง  ดั่งจงจินต์

หนีมาไกล  รถไฟส่ง  ลงสุราษฎร์                                    โอ้อนาถ  หนอชีวิต  จิตถวิล

แหล่งพี่น้อง  เคยหลีกลี้  หนีโบยบิน                                               มาสู่ถิ่น  ถึงเมืองใต้  หนีใจครอง

มืดมนมัว  ทั่วทิศา  ตามหาเจ้า                                                            รู้เพียงเรา  เศร้าโศก  อกกลัดหนอง

สิ้นความหวัง  นั่งก้มหน้า  น้ำตานอง                                              ได้พบน้อง  สองปีผ่าน  ฝันหรือไร

ยี่สิบปี  ให้หลัง  ดังความฝัน                                                              สรวงสวรรค์  บันดาล  ประธานให้

ได้มีเจ้า  เข้ามาอยู่  เป็นคู่ใจ                                                                ไม่ห่างไกล  แรมร้าง  แนบปรางค์นวล

โอ้อนาถ  บัดนี้  ชีวีข้า                                                                         ซึมน้ำตา  ฝ่าชีวิต  ลิขิตหวน

คืนสู่หลัง  ครั้งเก่า  เคยเศร้าครวญ                                                    ต้องจากนวล  มาสุราษฎร์  อนาถใจ

ภาวนา  ขอให้น้อง  จงหนักแน่น                                                     อย่าคลอนแคลน  คลายเคลื่อน  สะเทือนไหว

พี่ยังคง  ดำรงรัก  ฝากฤทัย                                                 ถอดหัวใจ  ใฝ่เฝ้า  เจ้าคนงาม

มาสุราษฎร์  หวนรำลึก  นึกหนหลัง                                เมื่อคราวครั้ง  คุมเรือแข่ง  แห่งสยาม

บันเทิงทัพ  นาวา  สง่างาม                                                 ฝีพายจ้ำ  ไม่รองใคร  เมื่อแข่งเรือ

คิดคราวเมื่อ  เรือดี  ศรีสุราษฎร์                                                         ฝีพายจัด  จากเมืองใต้  ไปเมืองเหนือ

เก็บกวาดแชมป์  หลายสนาม  ยามแข่งเรือ                                      ไม่น่าเชื่อ  บันเทิงพ่าย  ที่ไชโย

เงินรางวัล  ขันต่อ  เต็มห่อพก                                                           ถึงพิษณุโลก  โศกใจ  ให้โมโห

แพ้บันเทิง  ทัพนาวา  พาอดโซ                                                         เงินก้อนโต  โถละลาย  ในสองแคว

คิดถึงเรือ  บันเทิง  ระเริงน่าน                                                           ชื่อสนั่น  น่านน้ำไหน  ไม่เคยแพ้

ลูกองค์ดำ  จ้ำรุนแรง  แข่งเรือแพ                                                     ชนะแน่  แข่งเรือ  เบื่อแข่งบุญ

ก่อนจะได้  ติดนายพล  โดนตัดหน้า                                หลายครั้งครา  ช่างเขา  เราไม่สูญ

แม้ไร้สาย  ขาดเส้น  มาเป็นทุน                                                         หัวซุกซน  ไม่งอแง  ทำแต่งาน

ต้องยึดมั่น  อุดมการณ์  สาบาลขอ                                                     จปร.  หน่อเนื้อ  เชื้ออาจหาญ

ยึดแข่งเรือ  เผื่อกุศล  ผลบุญทาน                                                      ไม่แข่งขัน  แข่งยศถา  จะพาตรม

เห็นหลายราย  ใหญ่เสียด้วย  นายช่วยเสริม                                   กลับเหิมเกริม  เบ่งกล้าม  พล่ามเสียงขรม

หอบห้อยโหน  เหยียบบ่า  ไม่น่าชม                                                ยังเริงรมณ์  ไร้อาย  ใช่คนดี

เช้าเย็นถึง  บึ่งตะกาย  ไปหลังบ้าน                                                  ยอมหน้าด้าน  คลานไม่อาย  ขายศักดิ์ศรี

ไอ้ตัวนาย  ยิ่งร้ายกาจ  อำนาจมี                                                         สุดอัปรีย์  ทำบัดซบ  ระบบพัง

เราทหาร  ผ่านการรบ  ครบเกษียณ                  จากโรงเรียน  นายร้อย  คอยปลูกฝัง

ปฏิบัติ  ราชการเข้ม  เต็มกำลัง                                                           ตามที่ตั้ง  ปณิธาน  ฝ่าฟันมา

ทั้งชีวี  อุทิศไว้  ให้กองทัพ                                                 จนได้รับ  เครื่องราชย์  และยศถา

แรงซื่อสัตย์  เสียสละ  ตลอดมา                                                         สู้รักษา  เกียรติศักดิ์  จักจงดี

จากสุราษฎร์  ไปเชี่ยวหลาน  หันเข้าหา                          นั่งรถมา  ออกกำลัง  อย่างเต็มที่

เห็นสนาม  งามสง่า  ดูน่าตี                                                                คงเป็นที่  ปราบเซียน  ชักเวียนวน

ออหลุมหนุ่ม  ผึ่งผาย  หมายฟันฟาด                                                โดนพี่อัฐ  กระทอก  เสียปี้ป่น

คะแนนมา  ลำดับสอง  น้องสุธน                                                     คนที่บ่น  คงเป็นผม  แสนตรมใจ

คนมือดี  ตีมา  เป็นที่สาม                                                                    ไล่ติดตาม  นามเล่าฮู  หาหมูไม่

ทั้งเทอร์โบ  ซุปเปอร์  เจอเข้าไป                                                       เก็บออมไว้  เอาจ่ายแจก  แปลกแต่จริง

ได้พระเอก  วันนี้  เป็นพี่อัฐ                                                               หวดสะบัด  พัตเนี้ยบ  เฉียบขาดยิ่ง

ตีจับวาง  กลางแฟร์เวย์  เท่ห์เสียจริง                                                ไม่เกรงกริ่ง  สิงห์สนาม  คว่ำศัตรู

วันพรุ่งนี้  จะฟันใหม่  อย่าใจฝ่อ                                                      สามพระหน่อ  รู้เสียบ้าง  หมดทางสู้

ชักอกสั่น  ขวัญแขวน  แทนเล่าฮู                                                     กว่าจะรู้  ตัวก็สาย  เกือบวายปราณ

ออกสนาม  รัชชประภา  เดินหน้าต่อ                              มีเพื่อนรอ  หาดป่าตอง  มองทางผ่าน

ใจจดจ่อ  ห้อบึ่ง  ถึงไม่นาน                                                               คงพบพาน  ย่านพักผ่อน  ขอหย่อนกาย

ได้ตีกอล์ฟ  ในวันนี้  มีรสชาติ                                                           แม้พลั้งพลาด  ก็ยังเพลิน  เนินไศล

เขื่อนสูงชัน  กั้นเพียงน้ำ  ไม่ห้ามใคร                                             ประทับใจ  รัชชประภา  น่าภิรมย์

เดินตีกอล์ฟ  หอบเหนื่อย  แสนเมื่อล้า                                            ดีเสียกว่า  แบความรัก  ที่มักขม

มันเหน็ดเหนื่อย  เมื่อหัวใจ  ไม่หายตรม                                         ยิ่งระทม  ทุกข์หนัก  เพราะรักเลือน

รักวันนี้  มีแต่รัก  ที่หนักแน่น                                                           รักหมื่นแสน  รักใด  ก็ไม่เหมือน

เป็นความรัก  ที่ฝังใจ  คอยใฝ่เตือน                                  คือรักเพื่อน  รักกอล์ฟ  ออกรอบกัน

ถึงจะแพ้  ก็แพ้กาย  ใจไม่มั่ว                                                              มิหมองมัว  มอดไหม้  ให้ใจพรั่น

ถ้าแพ้รัก  รักลวง  ห่วงจาบัลย์                                                            ต้องพบวัน  ไหม้มอด  ทอดอาลัย

สนามแรก  แจกคะแนน  แสนประมาท                          วันนี้พลาด  พรุ่งนี้รู้  ขอสู้ใหม่

บลูแคนย่อน  คอยอยู่  ไม่สู้ไกล                                                         ขอลาไป  จากเชี่ยวหลาน  หันขอบคุณ

รถโตโย  โก้จริงหนา  พาเลี้ยวลัด                                                     สารวัตร  ปรีดี  มีเกื้อหนุน

ตื่นตีสาม  ตามเอื้อเฟื้อ  เพื่อเจือจุน                                                   สั่งล้อหมุน  จาเชี่ยวหลาน  ดั้นด้นไป

ไม่ลืมฟัด ผัดกระเพรา  เอาไว้ก่อน                                                   เดี๋ยวท้องคลอน  กลางทาง  ครางไม่ไหว

สองข้างทาง  ร้างเปลี่ยว  โดดเดี่ยวใจ                                              เนินไศล  ช่วยแบ่งเบา  เคล้าอารมณ์

แสงสุรีย์  สาดส่อง  ช่องภูเขา                                                            เห็นร่มเงา  แมกไม้  ให้ขื่นขม

เคยร่มเย็น  เห็นสิ่งใด  ชี้ให้ชม                                                         มาตรอมตรม  เพราะไร้เงา  เจ้ายุพิน

โตโยต้า  หลังคาสูง  มุ่งภูเก็ต                                             จนสำเร็จ  พ้นสะพาน  สารสิน

คุณสมจิต  มิตรโตโย  โผโบยบิน                                                       ขับจนชิน  ถิ่น  เส้นทาง  ดั่งเหาะมา

รถส่วนตัว  ทัวร์ทางใต้  ใช้รับจ้าง                                    ครบทุกอย่าง  นั่งสุโข  โตโยต้า

ชีวีดี  มีเพลงก้อง  ร้องกันมา                                                              ผ่านแนวป่า  ฝ่าลัดเลาะ  เกาะเส้น

เด่นตระหง่าน  ท่านวีระ  ยอดนารี                                                   เทพสัตรี  ศรีสุนทร  เมืองถลาง

ชาวภูเก็ต  ภูมิใจ  ในสองนาง                                                           เป็นตัวอย่าง  หญิงกล้า  ฝ่าสงคราม

แสงไข่มุก  อันดามัน  สวรรค์ฟ้า                                                       แสงเจิดจ้า  หาดป่าตอง  มองยามค่ำ

ไฮซีซั่น  นั้นสนุก  ทุกโมงยาม                                                          สดงดงาม  ยามค่ำคืน  รื่นอารมณ์

ตอนทุ่มครึ่ง  ถึงป่าตอง  ทองภูเก็ต                                   จองห้องเสร็จ  พบหกน้อง  ปองใจสม

ห้องอาหาร  ร้านบางลา  โอชาภิรมณ์                                              ได้ลิ้มชม  ปูปลาหอย  ค่อยชื่นใจ

คุณสมาน  ทานเบียร์  ไฮเนเก้น                                                        พรุ่งนี้เล่น  มะรืนดำ  น้ำเกาะไข่

ฮันนีมูน  คุณมะยม  ชมกลิ่นไอ                                                         เราไม่ไป  ไม่อยากฝืน  ใต้คลื่นเมา

นายหัวคว่ำ  ไม่มีควาย  เรียกชายว่ำ                                  พอยามค่ำ  ล่ำดื่มไวน์  ให้คลายเหงา

ธุรกิจ  นิดหน่อย  ค่อยทำเนา                                                             แค่เบา ๆ  เพียงพันล้าน  นั่นกำไร

เตรียมทหาร  รุ่นยี่สิบ  หนีบมาด้วย                                  เป็นผู้ช่วย  นามว่าปุ๊ก  สนุกใหญ่

ร่มการกิจ  เป็นมิตรดี  ที่รู้ใจ                                                               ไม่เท่าไร  ใกล้พันล้าน  งานมากมี

คู่ต่อสู้  บลูแคนย่อน  ในตอนสาย                                                     ขอสู้ตาย  โปรมะยม  สมศักดิ์ศรี

มีได้เสีย  จะเชียร์ใคร  คนไหนดี                                                       เดิมพันมี  พนันไว้  มื้อใหญ่โต

ทนายอุ๊  คนหาร  กรรมการใหญ่                                                       ท่านตั้งใจ  ให้สนุก  อย่างสุขโข

เดินสายกลาง  วางธรรมะ  พึ่งธรรมโม                                            ถือพุทธโธ  ทำหน้าที่  ศรีทนาย

จากบางลา  มาไทเกอร์  เจอคอมเพล็กซ์                           เห็นหน้าเด็ก  ไร้เดียงสา  พาใจหาย

อากาศเย็น  เด่นกลางแจ้ง  แหล่งสบาย                                           มาผ่อนคลาย  ร่วมสังสรรค์  จำนรรจา

ร่วมพาที  เกือบตีหนึ่ง  บึ่งที่พัก                                                         พวกน้องรัก  ส่งดูแล  ชะแง้หา

ถึงป่าตอง  รีสอร์ท  ทอดกายา                                                            ก่อนนิทรา  ดื่มหญ้าหวาน  ทานแก้เมา

พี่อัฐพล  บริหาร  หญ้าหวานร้อน                                                    ดื่มก่อนนอน  จึงจะตี  ดีหลายเท่า

เรียกสมาน  ทานอีกคน  ให้พ้นเมา                                                  ขอให้เฝ้า  นักกีฬา  อย่าหลับนอน

คุณสุธน  คนดี  เฝ้าพี่อัฐ                                                                     ดูแลจัด  ครบครัน  บรรจถรณ์

หารุ่งเช้า  เขย่าให้ตื่น  ฟื้นจากนอน                                 คนใจร้อน  คอยรองับ  ปรับทางเซียน

กลับที่นอน  เมื่อตอนดึก  นึกถึงเพื่อน                                             ได้มาเยือน  บลูแคนย่อน  ตอนเกษียณ

เที่ยวป่าตอง  มองเพลิดเพลิน  เดินวนเวียน                                    ไม่ปวดเศียร  เพราะชาชิน  กลิ่นเมรัย

ตื่นแต่เช้า  เข้าห้องน้ำ  ตามปกติ                                                       แล้วดำริ  เขียนคำกลอน  สุนทรไข

บริหาร  กายา  ท่าว่องไว                                                                     ฟิตร่างกาย  เตรียมตัวฟัด  อัฐสุธน

เช้าวันนี้  ไม่น่าพลาด  อากาศโปร่ง                  หายใจโล่ง  โปร่งใส  ไม่สับสน

สมองดี  คงตีได้  สบายตน                                                  แล้วทุกคน  ลงเบรกฟัสต์  ซัดกันนัว

จากป่าตอง  รีสอร์ท  ดอดขึ้นเหนือ                                  ชมไม่เบื่อ  ป่าทิว  ลิ่วสลัว

เห็นหาดทราย  สีทอง  มิหมองมัว                                                     เกือบลืมตัว  หลงสวรรค์  ฝันรื่นรมย์

สนทนา  ปราศรัย  ในรถตู้                                                 ท่านเล่าฮู  ขู่พี่อัฐ  ฟัดเสียงขรม

ท่านสุธน  บ่นไม่หยุด  พูดประโลม                                 เดี๋ยวคอยชม  ฝีมือ  อัฐ  ซัดเทอร์โบ

ถึงสนาม  บลูแคนย่อน  ในตอนสาย                                                สบายใจ  สบายตา  พาสุโข

เขียวขจี  สีสดใส  ใคร่ตีโชว์                                                               เหมือนคนโซ  อยากลิ้มลอง  ของดีดี

การต่อสู้  บลูแคนย่อน  กระท่อนแท่น                                            ยันไม่แน่น  พัตไม่เนียน  เวียนเกสี

ทั้งภูเขา  โขดเขิน  เนินนที                                                                สนามดี  ใครตีแย่  อาจแพ้ไป

สนามนี้  ผู้ชนะ  มาแปรเปลี่ยน                                         เป็นวิเชียร  มือบ๊วย  ด้วยแก้ไข

ถึงเจ็บแขน  ครวญคราง  แทบวางวาย                                             หลุมสุดท้าย  ซุปเปอร์  เธอทำพาร์

ขึ้นจากหลุม  ประชุมกัน  วัวนพรุ่งนี้                                               ไม่อยากตี  เพราะหมดแรง  ปวดแข้งขา

ไปกราบพระ  พุทธคุณ  บุญบูชา                                                      หรืออย่างไร  ว่ามา  ให้รู้ไป

สั่งก๋วยเตี๋ยว  ชามโต  แก้โซหม่ำ                                                       ชื่อสะปำ  เป็นก๋วยเตี๋ยว  ของปักษ์ใต้

น้ำขลุกขลิก  ใส่พริกหน่อย  อร่อยใจ                                               ช่วยผ่อนคลาย  หายโซ  โผกลับรัง

นัดสองทุ่ม  กลุ่มสมาน  ไปทานเข้า                  มีทั้งเหล้า  เหมาทั้งไวน์  ริมชายฝั่ง

หาดราไว  ในนิยาย  เคยได้ฟัง                                                          สายลมครั่ง  ทะเลครวญ  หวนคำนึง

ใต้ชงโค  โต๊ะยาว  แสนหนาวสั่น                                                    ย้อนความฝัน  วันก่อนเก่า  เฝ้าคิดถึง

เราเพียงสอง  เคยครองนั่ง  ฝังตราตรึง                                            สุดลึกซึ้ง  ถึงเก่าก่อน  สะท้อนใจ

ได้เชยชิด  น้องนาง  พรางพลอดพร่ำ                                              สุขลึกล้ำ  เสียจริงๆ  ยิ่งไฉน

ค่ำคืนนี้  ไร้นวลนาง  เธอห่างไกล                                                   หาดราไว  ใจจึงเหงา  เศร้าตรมตรอม

ลมรำเพย  เชยกลิ่น  ประทินเจ้า                                                        พี่เชยเฝ้า  เจ้าเคียงใกล้  ได้ถนอม

แต่บัดนี้  พี่ขาดเธอ  เพ้อดมดอม                                                        ได้แต่หอม  กลิ่นหาดทราย  ใช่นวลนาง

ผืนระทม  ล้มตัวลง  ปลงใจหลับ                                      กระส่ายสับ  กลับฝืนใจ  ใกล้รุ่งสาง

สงสารจิต  คิดเวียนวน  ไม่พ้นนาง                                                   รุ่งสว่าง  ต้องร้างไป  ตัดใจลา

หาดป่าตอง  น้องคนดี  พี่อาศัย                                                         ต้องลาไกล  ใจคิดถึง  คะนึงหา

หาดทรายนวล  ชวนพิศ  จำติดตา                                                     อยากได้มา  อีกสักหน  คงจนใจ

ขอลาที  พี่และน้อง  ต้องจำพราก                                                     ถึงวิบาก  จะยอมทน  หม่นหมองไหม้

จากภูเก็ต  ลาลับล่วง  สุดห่วงใย                                                       อยากมาใหม่  ใคร่พบเพื่อน  เหมือนวันวาน

มุ่งเกาะไข่  หมายทะเล  ลาไปแล้ว                                    เจ้าน้องแก้ว  โปรยม  สมสมาน

ดูมัจฉา  ปลาว่าย  ในสายธาร                                                             ขึ้นสวรรค์  เกาะไข่  หมายเชยชม

จำใจลา  ป่าตอง  โอ้น้องพี่                                                 หากบุญมี  มาใหม่  ใคร่สู่สม

นั่งรถเลียบ  หาดทราย  หมายรื่นรมย์                                               ขอเชยชม  แหลมพรหมเทพ  เสพสุขกัน

แหลมพรหมเทพ  ประภาคาร  กาญจนา                                         เห็นขอบฟ้า จูบแผ่นน้ำ ดังความฝัน

เมื่อใดเล่า เราจะพบ บรรจบกัน                                                        รอสวรรค์ บันดาลสม พรหมเทพพา

                จากพรหมเทพ เก็บความรัก มาฝากน้อง                          วัดฉลอง ช่วยดล มนต์เก่งกล้า

หลวงพ่อแช่ม ปิดทอง ปองศรัทธา                                                   ภาวนา อายุมั่น ขวัญยั่งยืน

หลวงพ่อเกลื้อม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อแช่ม                                เหลืองแอร่ม แจ่มหล้า พาใจชื่น

ได้กราบองค์ ผู้ทรงศีล ทุกวันคืน                                                      จิตร่มรื่น ชื่นรัก ประจักษ์ใจ

                เมื่อเป็นเด็ก เจ็บแขน แสนสาหัส                                     แม่ตั้งสัตย์ ปิดทอง ที่หัวไหล่

บนรูปภาพ หลวงพ่อแช่ม แล้วตั้งใจ                                                ขอให้คลาย หายเร็ว ไปโรงเรียน

เพียงค่อนคืน โรคร้าย หายสนิท                                                       แม่ตั้งจิต บนบาล ได้อ่านเขียน

เจ็บเป็นเดือน เลือนหาย ไม่มาเวียน                                 มาเยี่ยมเยียน หลวงพ่อ ขอบูชา

หลวงพ่อแช่ม แจ่มจรัส ช่วยปัดเป่า                                  โรครุมเร้า มลายสูญ บุญหนักหนา

ผู้เดินทาง นักท่องเที่ยว มักเทียวมา                                                   นบบูชา วัดฉลอง เพื่อล้างใจ

                เสี่ยงเซียมซี เบอร์สิบ ไม่จนทรัพย์                                    ไม่อาภัพ ไม่แพ้ความ งามสดใส

หากเปิดร้าน ร้องเพลง เก็งกำไร                                                       มีแม่หม้าย ไข้ไม่มี พี่อัฐพล

                ออกจากวัด วิ่งลัดเกาะ เลาะถลาง                                     ระหว่างทาง ร้านแม่จู้ ดูน่าสน

มื้อกลางวัน ทานอาหาร กันทุกคน                                                   สาละวน ซื้อของไว้ ไปฝากกัน

ห้อตะบึง บึ่งสุราษฎร์ ไม่คลาดเคลื่อน                                             จิตลอยเลื่อน เลือนลา เก็บมาฝัน

จากแล้วหนา เมืองภูเก็ต เพชรดามัน                                               หากบุญทัน เทียมเจ้า เราจะเยือน

ผ่านทับปุด รุดสุราษฎร์ เพื่อขึ้นรถ                                                   อาหารสด รสชาติ ช่างเชือดเฉือน

กุ้งปลายำ หอยใหญ่ ยังใฝ่เตือน                                                        ไม่ลืมเลือน เหมือนได้อยู่ คู่ตาปี

ขึ้นรถไฟ สปริ้นเตอร์ เผลอหลับผล็อย                                            ใครจะคอย เราที่ไหน บ้างไหมนี่

ถึงประจวบ คีรีขันธ์ สถานี                                                 ตื่นพอดี ย้อนเหตุการณ์ เหมือนฝันไป

                ก่อนเข้าเรียน จปร. จะขอเล่า                                             สมัยคราวเรา เตรียมทหาร นานไฉน

เรือรบหลวง เจ้าพระยา พาแรมไป                                                   ตัดอ่าวไทย ฝ่าสายน้ำ ยามราตรี

สัตหีบ มุ่งหน้า มาประจวบ                                                                ฝึกเรียนควบ วิชา กลาสี

รุ่งอรุณ เลือนราง ฝั่งนที                                                                     ถึงประจวบ คีรี มีทรงจำ

สตรีงาม นามประทิน ถวิลคิด                                                            มาสนิท ทางใจ มิกรายกล้ำ

เป็นความหลัง ครั้งอดีต ลิขิตนำ                                                        สิ่งตอกย้ำ คือความดี มีน้ำใจ

สี่สิบปี วันนี้ลับ นับถอยหลัง                                                             อยู่ในวัง เวียนวน ไม่หล่นหาย

โอ้ประทิน กลิ่นสวาท ไม่อาจคลาย                                  ไม่สลาย ทรงจำ ที่ย้ำเตือน

                คิดอะไร ไปมา นิทราต่อ                                                     หนาวจริงหนอ หนาวกาย ยังไม่เหมือน

ดั่งหนาวใจ ขื่นขม อารมณ์เตือน                                                       อยากลืมเลือน สิ่งถวิล สิ้นภวังค์

สปริ้นเตอร์ เธอเขย่า ให้เราตื่น                                                         พอสดชื่น จิตก็ชวน หวนความหลัง

เพชรบุรี สีไสว ไฟเขาวัง                                                                    คิดถึงครั้ง ปรางค์อิงแอบ แนบเชยชม

เดินเคล้าคู่ เคลียคลอ พะนอชิด                                                         ไมตรีจิต เคยให้ ได้สุขสม

ย้อนลิขิต อดีตฝัง ครั้งรื่นรมย์                                                            กลับมาตรม หมองใจ ไม่บรรเทา

รถไฟพา คณะทัวร์ หันหัวกลับ                                                         หัวใจหลับ ตื่นขึ้นมา มองหาเจ้า

นครปฐม ตรมหัวใจ ไม่เห็นเงา                                                         รถไฟเข้า สามเสนนิ่ง ยิ่งอาวรณ์

                ก่อนจะรุ่ง อรุณ ต้องอุ่นเครื่อง                                          เดินย่างเยื้อง เข้าหา กาแฟร้อน

ปาท่องโก๋ ไข่ลวดตั้ง หลังตื่นนอน                                                   นั่งพักผ่อน ก่อนแท็กซี่ จะรับไป

ส่งเล่าฮู ถึงบ้าน ย่านเกษตร                                                               พอส่งเสร็จ สั่งแท็กซี่ รี่เมืองใหม่

ถึงดอนเมือง รถยังว่าง ทางสบาย                                                     พักผ่อนคลาย แข้งขา ตั้งท่านอน

เรียกแท็กซี่ ปรี่รับผ่าน อัฐพล                                                            กับสุธน เดินทาง ไปพักผ่อน

การพันตู ที่ภูเก็ต ไม่เสร็จตอน                                                          นัดต่อกร ที่สนาม จปร.

วันที่ 23 ตามหมายนัด จัดไว้แล้ว                                                       จะเปลี่ยนแนว เล็กน้อย ไม่แปลกหนอ

ตั้งใจเตรียม ร่างกาย ให้เพียงพอ                                                      หากรั้งรอ พอไต่เขา เราคงอาน

ได้เวลา มาตามจัด นัดเช้าตรู่                                              ท่านเล่าฮู จู่มาบอก ออกจากบ้าน

ตื่นแต่เช้า จัดข้าวของ แทบไม่ทัน                                                     ไปพบท่าน อัฐกับธน คนหน้าเดิม

รพีพล คนเก่ง นักเกรงกอล์ฟ                                                            เดินออกรอบ ร่วมด้วย ช่วยมาเสริม

จปร. รุ่นเก่า เจ้าดั้งเดิม                                                                        ขอเพิ่มเติม ทริปภูเก็ต ให้เสร็จลง

ครั้นก๊วนครบ จบเรื่อง เริ่มต่อสู้                                                         แชมป์ที่บลู แคนย่อน อ่อนไหลหลง

หัวคะมำ เปิดตำรา ออกหาวง                                                            แต่งวยงง วงไปไหน ไม่กลับมา

อัฐพล คนตื่น ไม่ฝืนหลับ                                                                   กว่าจะกลับ ก็พอดี ถึงตีห้า

พร้อมสุธน คนแก่หนุ่ม ทุ่มกายา                                                       กามาก้า  กินมาดี  ตีสบาย

ท่านเลาฮู สู้ดูแล สุขภาพ                                                                    พอได้ทราบ คู่ต่อสู้ เริ่มหมั่นไส้

ดูถูกหรือ ไม่ยอมนอน พักผ่อนกาย                                  เอายังไง กันดี พวกขี้เมา

                เขาชะโงก โชกคราวนี้ เห็นทีแย่                                      ดุ่มเดินแถ แฟร์เวย์ เซขึ้นเขา

ลองแข้งขา ร้าเรี่ยวแรง แล้วหนอเรา                                               ถอดใจก้าว ข้าวไม่กิน สิ้นแรงเดิน

กามาก้า ของสุธน เริ่มพ่นพิษ                                                            มันออกฤทธิ์ ตีได้ไกล ลูกไดร้ฟเหิร

ไม่ได้นอน ไม่เป็นไร ขอให้เดิน                                                       ตีกอล์ฟเพลิน เดินสะบัด ฟัดรางวัล

หลุมสุดท้าย เป็นพระเอก เร็กกูล่า                                                    ทำได้พาร์ ไม่เบอร์ดี้ มีของขวัญ

เขาชะโงก จปร. ขอโจษจัน                                                                ถูกฟาดฟัน หลายร้อย อร่อยดี

รพีพล อีกคนหนึ่ง น่าทึ่งนัก                                                             ควงคนรัก ตีสบาย ไดร้ฟเบอร์ดี้

กำลังใจ ท่วมท้น คนรักมี                                                                    พัตทุกที ลงหลุม อย่างนุ่มนวล

อัฐพล บ่นเล่าฮู ว่าหมู่นี้                                                                      ชักตีดี เดินได้ ไม่โหยหวน

แต่ตัวเรา เจอเขาขุน หัวหมุนทวน                                                    คลานเซซวน เหมาซุปเปอร์ เพ้อใจลอย

                สนามนี้ รวมสโตรก จึงโยกแชมป์                                    ใครทำแต้ม มากที่สุด ต้องหลุดผล็อย

แชมป์เชี่ยวหลาน บานตะไท ได้หลุดลอย                                      ทำไม่น้อย บลูแคนย่อน อ่อนระทวย

ส่วนสุธน ได้รางวัล ดันตีมาก                                                            คนไม่อยาก จริงจัง ยังถูกหวย

เงินสะพัด พลาดซุปเปอร์ แต่เธอรวย                                              แชมป์เสียด้วย ใครอยากกู้  เล่าฮูไง

รวมแต้มน้อย ทุกสนาม ตามคิดคาด                                  คนชื่ออัฐ เจ้าเก่าเขา เขายังไหว

เล่าฮูสาม ตามสุธน ไม่สนใจ                                                             คนสุดท้าย คือคนเก่า เจ้ากลอนเดิม

คิดแมทเพลย์ ก็ย่ำแย่ แพ้พี่อัฐ                                                            สุดฉกาจ ไม่พลาดพลั้ง ยังฮึกเหิม

แต่เทอร์โบ ซุปเปอร์ เจอเหมือนเดิม                                                ไม่เพิ่มเติม ต้องจำฝืน คืนกำไร

แผนครั้งหน้า พาไปไหน ยังไม่รู้                                                      หากจะสู้ โดยไม่ยอม ต้องซ้อมใหม่

ข้ามคงคา หลบป่าเขา ลำเนาไพร                                                      รอให้ได้ บารมี พี่อัฐพล

การเดินทาง ครั้งใด ไม่ไปเปล่า                                                         จะต้องเล่า กล่าวสุนทร เป็นกลอนต้น

ขอเพียงจิต ผ่อนคลาย หายกังวล                                                      เพื่อทุกคน สุขสันต์ นิรันดร             

eeeeee